บริษัทจัดหาคู่ญี่ปุ่น วันนี้ เราพามาทำรู้จักความรัก ฉบับชาวญี่ปุ่นแท้ จากปากสาวญี่ปุ่น
คนไทยคุ้นเคยกับประเทศญี่ปุ่นมาช้านาน และคนไทยส่วนใหญ่ชอบความเป็นญี่ปุ่น เช่น ความเป็นระเบียบ ความเจริญ เทคโนโลยี รวมถึง วัฒนธรรมการกินอาหารของญี่ปุ่น การเที่ยวญี่ปุ่น ก็พบว่าคนไทยไปเที่ยวเยอะมาก
สำหรับประเทศไทย ชาวญี่ปุ่นก็มีความชอบประเทศไทย และคนไทยอยู่มากเช่นกัน โดยสังเกตพบว่าคนญี่ปุ่น นิยมมาอาศัย และ ท่องเที่ยวประเทศไทย ไม่น้อย บริเวณที่มีชาวญี่ปุ่นมาอาศัยอยู่มาก ก็คงเป็น ถนนสุขุมวิท เช่น ทองหล่อ พร้อมพงศ์ อโศก เอกมัย จะพบห้างของญี่ปุ่นอยู่ประเทศไทยพอสมควร
แต่จริงๆ แล้วในด้านวัฒนธรรมความรักชาวญี่ปุ่นเองก็แตกต่างจากวัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกวัฒนธรรมความรักที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นในมุมมองของผู้หญิงญี่ปุ่นวัย 20 เนื่องจากเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลจึงอาจไม่ถูกต้อง 100% เสมอไป แต่ก็เป็นข้อมูลที่ควรรู้ไว้อย่างยิ่งสำหรับใครที่สนใจจะคบกับชาวญี่ปุ่น หาคู่ หาแฟน เป็นคนญี่ปุ่น
วัฒนธรรมญี่ปุ่นความรักชาวญี่ปุ่น
1.บอกรักก่อนคบ
ชาวตะวันตกจะนิยมออกเดทไปเรื่อยๆ ศึกษานิสัยกันก่อนที่บอกรัก ให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่ากำลังคบกันเอง จากเดท ส่วนคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วมักบอกขอคบ จากนั้นค่อยคบ ออกเดท ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะมีการพูดคุยกันบ้าง แต่จะไม่มีการไปไหนมาไหนกันสองต่อสองแบบการ เดท
อาจจะเป็นเพราะไม่อยากจะที่จะคิดไปเอง ชัดเจนไปเลย จริงใจไปเลย ดีกว่า ถ้าไม่ปฏิเสธก็แสดงว่ามีใจให้ บางทีการชวนไปข้างนอก ไปทานมื้อกลางวันในแบบเพื่อนๆ กันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ด้วยเหตุนี้เองหากไม่มีการบอกรักอย่างชัดเจนเพื่อให้เข้าใจว่า มีใจให้กันทั้งสองฝ่าย ก็จะไม่มีทางเข้าใจการกระทำเลย แล้วมารู้ทีหลังจะทำตัวกันไม่ถูก
2.ค่าใช้จ่ายในการเดทส่วนใหญ่แล้วจะ หารครึ่ง หรือไม่ก็ฝ่ายชายออกมากกว่าเล็กน้อย
ชาวญี่ปุ่นเชื่อในความเท่าเทียม การแบ่งปันกัน จึงเป็นเรื่องที่สมควร ไม่เอาเปรียบกัน คบกันจึงเป็นไปด้วยใจ แม้อาจจะต่างไปตามช่วงวัยและท้องที่ แต่ในกรณีของคู่รักวัยรุ่นยุคใหม่นั้น ยิ่งคบกันนานเท่าไรก็มีแนวโน้มที่จะใช้วิธีหารครึ่ง ไม่แม้แต่การเดทในตอนต้นเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่าคนญี่ปุ่นขี้เหนียว แต่ได้รับการเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เกิดความคิดที่กล่าวไปตอนต้น ซึ่งก็มีเหตุผลนะ ในทำนองเดียวกับการที่ได้แบ่งปันเวลาให้กันและกัน น่าสนใจทีเดียว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแบ่งครึ่งตลอดนะ ในกรณีของวันพิเศษต่างๆ อย่างวันครบรอบ วันเกิด หรือวันคริสต์มาสนั้น พบว่าฝ่ายชายจำนวนไม่น้อยก็ชอบที่จะออกให้เองทั้งหมด ซึ่งแสดงถึงความต้องการในการสร้างความประทับใจ
3.เดททีใช้เวลานานหน่อย
เป็นเพราะกิจกรรมที่ชาวญี่ปุ่นชวนกันไป ออกเดท นัดเดท นั้น มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ไปงานวัด ไปชมดอกไม้ไฟ ไปสวนสนุก เดินเล่นสวนสาธารณะ กินข้าว ดูหนัง ช้อปปิ้ง ซึ่งที่เที่ยวของคนญี่ปุ่นมีมากและหลากหลาย แต่ สำหรับคนตะวันตกแล้วการเดทส่วนใหญ่อาจเป็นการรับประทานอาหาร เดินเล่น หรือใช้เวลาร่วมกันไม่กี่ชั่วโมง
ด้วยเหตุนี้เองในกรณีที่สัญญาว่าจะพาไปออกเดทในช่วงสุดสัปดาห์ คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเลยจะคิดว่าต้องใช้เวลาเกินครึ่งวันหรืออาจจะทั้งวัน การพาไปรับประทานอาหารหรือดื่มชาเพียงอย่างเดียวในช่วงสุดสัปดาห์จึงอาจไม่เพียงพอสำหรับคนญี่ปุ่นบางคนก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่า เดทสั้นไม่ได้นะ
4.มักไม่แสดงความรักเปิดเผย
อาจเป็นเพราะในความคิดของผู้เขียน มีสาเหตุที่มาจาก 2 เรื่อง เรื่องแรกคือคนญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะชื่นชอบ “ความลับ” และต้องการรักษาความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย อีกเรื่องคือไม่อยากถูกมองว่าเป็น “คนที่ไม่รู้จักมารยาทสาธารณะ” (เกรงใจและใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นๆเมื่อมีคนที่เห็นแล้วจะรู้สึกไม่สบายใจ) ด้วยเหตุนี้เองคนญี่ปุ่นจึงไม่แสดงความรักกันในที่สาธารณะ
ส่วนในประเทศแถบตะวันตกการแสดงความรักอย่างกอดและจูบกันนั้นเป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ง่ายมาก อีกด้านหนึ่งในกรณีของญี่ปุ่น แม้จะมีการจับมือกัน แต่การจูบกันในที่สาธารณะนั้นก็แทบจะไม่มีเลย
5.ไม่ค่อยบอกรัก
โดยนิสัยคนญี่ปุ่นส่วนมากมักขี้อายและไม่คุ้นเคยกับการแสดงความรักด้วยคำพูดเหมือนอย่างคนตะวันตก ชาวญี่ส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่ต้องพูดก็รู้ๆ กันอยู่ จากการกระทำ ซึ่งแน่นอนว่าจะแตกต่างกันในแต่ละคู่ แต่คู่รักที่ทะเลาะกันเพราะขาดการแสดงความรักด้วยคำพูดก็มีอยู่ไม่น้อยเลย
6.ชื่นชอบการเดทที่บ้าน
เนื่องจากการทำงานที่คร่ำเครียด คนญี่ปุ่นจำนวนมากมีความคิดที่จะทำตัวสบายๆในวันหยุด ซึ่งการเลือกอยู่บ้าน นอน ไม่ต้องเดินทาง ดูหนัง ฟังเพลง พูดคุย ทำอาหารกินกัน ก็มีให้พบเจอมากมาย ในขณะที่ฝั่งยุโรปก็จะมีความคิดในทำนอง วันหยุดอยากทำอะไรที่มันสนุกสนานข้างนอก เนื่องจากอยู่บ้านกับที่ทำงานมาทั้งสัปดาห์ และมักจะชวนเพื่อนของทั้งสองฝ่ายมาจัดปาร์ตี้กันข้างนอก
เนื่องจากคู่รักชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัวที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง จึงค่อนข้างแตกต่างอย่างมากกับคนยุโรปที่ชอบใช้เวลาร่วมกันกับผู้คนหลายๆ คน
7.ฝ่ายหญิงเป็นคนบอกความรู้สึก
เทศกาลวันวาเลนไทน์ในยุโรปฝ่ายหญิงมักจะถูกฝ่ายชายชวนไปออกเดท แต่ในกรณีของญี่ปุ่น วาเลนไทน์เป็นวันที่ฝ่ายหญิงจะจัดเตรียมและมอบช็อกโกแลตให้กับผู้ชายที่ตัวเองชอบ ถือเป็นวันที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ชายมากเลยทีเดียว
อาจจะเพราะวัฒนธรรมที่ผู้ชายเป็นผู้นำ ทำงาน การแสดงออกเรื่องความรัก นุ่มนวล จึงเป็นหน้าที่ของหญิง โดยฝ่ายชายที่ได้รับช็อกโกแลตในวันแห่งความรัก ก็ต้องให้ของขวัญตอบแทน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น โดยในพักหลังวัฒนธรรมนี้จะเป็นการมอบขนม ให้กับเพื่อนหรือเจ้านายที่ทำงานตามมารยาท ด้วย
8.ส่วนมากไม่อยู่ก่อนแต่ง
เราได้เห็นวัฒนธรรม อยู่ก่อนแต่ง ศึกษากันจากการอยู่ด้วยกัน ทางฝั่งยุโรปและ อเมริกา การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้นถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากก่อนจะแต่งงาน แต่ที่ญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องลองอยู่ด้วยกันก่อนจะแต่งงานเสมอไป แต่อย่างไรก็ตาม พักหลังนี้ การอยู่ด้วยกันแบบเป็นครั้งคราว ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ตามยุคสมัย โดยไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา โดยจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพียงครึ่งสัปดาห์หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น แต่ทั้งนี้จากนี้คนญี่ปุ่นก็ไม่รู้สึกว่า หากไม่ลองอยู่ด้วยกันแล้วจะทำให้ชีวิตหลังแต่งงานไม่ราบรื่น ร
9.การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ
คนญี่ปุ่นค่อนข้างจริงจังกับการแต่งงาน และ คู่ชีวิต ดังนั้น การ นัดเดท ออกเดท คบหาดูใจ จนกระทั่ง เป็นแฟน คู่รัก และจบลงด้วยคู่ชีวิต จึงพิถีพิถัน ดังนั้นจึงใช้เวลา กว่าจะมาอยู่ด้วยกัน ต่างกับคนยุโรปเมื่อออกเดทกันไปหลายๆ ครั้ง ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันยาวนานขึ้นเรื่อยๆ ก็จะค่อยๆ นึกถึงเรื่องแต่งงานมากขึ้น แต่ค่านิยมเกี่ยวกับการแต่งงานจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนในวัย 20 ตอนกลางก็มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องการแต่งงานมากเป็นพิเศษ ในปัจจุบันนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมุมมองของผู้หญิงในวัย 20 ตอนกลางด้วยกัน ไปจนถึงเริ่มเข้าทำงานจำนวนไม่น้อยมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้ามีแฟนอยากคบนานๆ วางแผนไปจนถึงขั้นแต่งงาน สาเหตุก็อาจเป็นเพราะว่า การคบกับคนที่ไม่เหมาะจะแต่งงานด้วยเป็นเรื่องเสียเวลาและเปลืองตัว การพิจารณาอีกฝ่ายให้ถี่ถ้วนตั้งแต่ขั้นตอนการคบกันนั้นอาจเป็นความสามารถพิเศษของผู้หญิงญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
10.ถ้าจริงจังถึงขึ้นแต่งงานพาไปพบครอบครัว
คนญี่ปุ่นเมื่อมีแฟนแล้วส่วนใหญ่มักจะเก็บเป็นความลับโดยไม่บอกครอบครัว นี่ไม่ได้แปลว่าไม่อยากแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก แต่มักจะรู้สึกไปเองว่า “พาไปพบครอบครัว” = “คบกันอย่างจริงจังโดยวางแผนแต่งงาน” แน่นอนว่าอาจมีข้อยกเว้นในกรณีของคนที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับพ่อแม่จนรู้สึกเหมือนว่าเป็นเพื่อนกัน ในกรณีของฝ่ายหญิง หากพ่อเป็นคนที่เข้มงวด หลายคนมักจะเก็บเป็นความลับไม่ให้พ่อรู้แต่จะบอกแม่เพียงคนเดียว
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัทจัดหาคู่